เปียโน เมื่อเราพูดถึงคำนี้ เรามักนึกถึงเฉพาะตัวเปียโน โดยไม่ได้นึกถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย นับตั้งแต่พนักงานในโรงงานผลิต พนักงานขายหน้าร้าน นักเปียโน คนซ่อมคนจูน-ปรับเสียง คนทำความสะอาดเปียโน และยิ่งบุคคลที่อยู่ท้ายสุดของขบวนผลิต เราแทบไม่ได้นึกถึงเลย ซึ่งพวกเขามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนกลุ่มอื่น...นั้นคือ คนยกเปียโน
คนกลุ่มนี้ทำหน้าที่คล้ายสะพานเชื่อมระหว่างขั้นตอนการเดินทางของเปียโน นับจากโรงงานมาถึงผู้จำหน่าย ไปจนถึงบ้านเจ้าของเปียโน และบางครั้งยามเปียโนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องทำหน้าที่พาไปหาหมอเปียโน จนกระทั้งอาการดีขึ้นจึงประคบประคองด้วยความใส่ใจเอากลับมาคืนเจ้าของ
สมัยก่อนคนยกเปียโนก็ไม่ได้ฝืกฝนอะไรพิเศษหรอกแค่มีแรงยก โดยมีผู้กำกับที่พอจะรู้บ้างคอยจัดคิวให้ว่าใครอยู่มุมไหนจับตรงไหนที่เปียโนก็ถือว่าใช้ได้ เช่น พวกจับกัง คนยกน้ำแข็ง พวกขี่สามล้อ สมัยนั้นยังไม่มีคิวมอเตอร์ใซด์....ผมเองยังทันได้ใช้บริการตอนเข้าวงการใหม่ ๆ วันนั้นผมต้องส่งเบบี้แกรนด์เปียโน ยกโดยไม่ต้องถอดขาทั้งสามของเปียโน เอาเป็นว่าวางอยู่ท่าไหนก็ยกขึ้นไปท่านั้น ไม่มีพิธีรีตรองเหมือนทุกวันนี้
พวกยกน้ำแข็งพาเปียโนข้ามพ้นธรณีประตูไปหยุดเทียบท้ายรถกะบะ จากนั้นจึงยกลอยข้ามพ้นขอบกะบะ โดยมีคนรอรับอยู่ข้างบน ค่อย ๆประคองจัดวางลงบนพื้นรถกะบะแบบเฉียดฉิวห่างขอบกะบะแค่เซ็นติเมตรกว่า ๆ ทำให้นึกนึกไปถึงตอนยานอะพอลโลสัมผัสพื้นผิวดวงจันทร์อย่างไงอย่างงั้น แต่ข้อผิดพลาดก็พอมีบ้าง ใจจริงไม่อยากเผยให้เสียราคาคุย แต่เห็นเป็นคนกันเองจะเล่าให้ฟังก็ได้
คืออย่างนี้ตอนยกเปียโนลอยขาข้างหนึ่งได้หลุดออกจากตัวเปียโนมากระแทกเล็บเท้าคนยกผู้โชคร้าย ผลคือเล็บหลุดกระเด็นไปคนละข้างกับขาเปียโน แทนที่จะเห็นสีหน้าเจ็บปวด เขากลับวางสีหน้าเฉย แถมหยิบเล็บขึ้นมาดูแล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
นั้นเป็นยุคแรก ๆ ล่วงมาจนถึงต้นยุคปี 2000 การขนย้ายเปียโนได้จัดขบวนทัพเป็นทางการขึ้น มีการฝึกฝนเป็นขั้นเป็นตอน แต่กระนั้นคุณเชื่อหรือไม่การยกแกรนด์เปียโนปัจุบันนีี ยังคงใช้ใม้ไผ่เป็นอุปกรณ์หลักในการยกไม่ต่างไปจากอดีต และยิ่งแสดงพลังอันเต็มเปี่ยมให้เห็นชัดในช่วงน้ำท่วมสองปีที่แล้ว
คุณเชื่อหรื่อไม่ว่าในช่วงนั้น พลยกเปียโนรวมกันทั้งหมดยังไม่พอตอบสนองความต้องการของเจ้าของเปียโนได้ ทั้ง ๆที่ทำงานกันตั้งแต่เช้าจรดมืด บางบ้านเปิดไฟเขียวด่วนพิเศษถึงเที่ยงคืนก็มี
ฃ่วงแรกทุกเจ้าสำนักเพลิดเพลินกับการรับโทรศัพท์ เพราะนั้นหมายถึงรับทรัพย์ด้วย แต่พอเข้าอาทิตย์ที่สามที่สี่ เชื่อหรือไม่ต่างคนต่างพร้อมใจกันปิดโทรศัพท์ เพราะรับไปก็ไม่อาจจัดคิวให้ได้เสียอารมณ์กันไปเปล่า
น้ำท่วมปีนั้น คนยกเปียโนกลายเป็นวีรชนของคนรักเปียโนไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่มีพวกเขาความเสียหายจะมากแค่ไหนลองคิดดูเองแล้วกัน
น้ำท่วมไหลผ่านไปสองปี หน้าฝนปีนี้กำลังเริ่มต้น บางที่พลยกเปียโนคนเดิมอาจจะได้หวลคืนกลับมาพิทักษ์เปียโนอีกครั้งหนึ่ง ถ้ามวลน้ำเคลื่อนมาประชิดกรุง...ถ้าเกิดขึ้นจริงน่าเสียดายเพราะหนึ่งในบรรดาขุนพลคนยกเปียโนที่ผมรู้จัก ไม่อาจจะกลับมาร่วมปกป้องเปียโนได้
เขานับเป็นหนึ่งในยอดขุนพลคนยกเปียโน กร่ำศึกยกเป๊ยโนมาทุกรูปแบบตั้งแต่เหนือจรดไต้ ครั้งสุดท้ายผมได้รับโทรศัพท์จากเขาแจ้งว่าอยู่ต่างจังหวัดมีเปียโนอยู่ตัวหนึ่งจะให้พี่ดู เอาไว้กลับไปก่อน
นั้นเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้าย จากนั้นอีกไม่นานผมได้ทราบข่าวว่าเขาประสบบัติเหตุขณะกลับจากต่างจังหวัด
" ทองอยู่ขาหักครับพี่ ตอนนี้รัษาตัวอยู่ที่สมิติเวช " ผมโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ทราบข่าวจากเพื่อนร่วมงานเขาอย่างน้อย ๆ ก็ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนเรื่องขาหักก็รักษาไปตามอาการอีกไม่นานคงหาย
" ทองอยู่ต้องผ่าตัดทุกวัน เพื่อดูแลแผลไม่ให้ติดเชื้อ" สายข่าวรายงานตามกระชั้นมา คราวนี้ผมฟังแล้วยังวาดภาพอาการไม่ออก ต้องผ่าตัดปิด ๆเปิด ๆ คงไม่สนุกเท่าไรทั้งหมอและคนไข้
" พี่ครับทองอยู่ต้องตัดขาทิ้งข้างหนึ่ง " จบรายงานข่าวครั้งสุดท้าย ผมได้แต่อึ้ง ความคิดเดิมที่จะโทรไปถามไถ่ทุกข์ ต้องปิดสวิทต์ลงไปโดยอัติโนมัติ
จากวันน้้นจนถึงวันนี้ผมได้พูดคุยกับทองอยู่ครั้งสองครั้ง หลังสุดได้ข่าวว่าเขาจะกลับไปทำงานที่เดิมอีกในฐานะผู้ประสานงานจัดตารางนัดหมายการยกเปียโน หน้าที่ใหม่นี้ต้องใช้สมองทำงานแทนแขนขาอย่างแต่ก่อน
ข่าวดีนี้ทำให้ผมยิ้มกับตัวเองได้ เริ่มมีความหวังมองไกลไปถึงน้ำท่วมคราวหน้าจะปีไหนก็ตาม ไม่ว่ารัฐบาลจะเอาอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่ผมมั่นเต็มร้อยว่าท่านแม่ทัพทองอยู่เอาเปียโนท่านอยู่แน่.....
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>